คำขวัญประจำจังหวัด ไม่ทราบว่าถือกำเนิดเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงราวๆ ยุค "Visit Thailand Year" (เริ่มปีท่องเที่ยวประเทศไทย ค.ศ.1987) โดยคำขวัญประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดนั้น จะนำเอาความโดดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยว หรือของดีประจำจังหวัดแต่ละจังหวัด มาร้อยเรียงเป็นคำขวัญ ที่มีความคล้องจอง ฟังแล้วสบายหู เช่นเดียวกันกับจังหวัดสงขลาบ้านเรา ที่มีคำขวัญประจำจังหวัด ซึ่งมาจากการนำสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ มาผูกรวมเข้าด้วยกัน ทั้งอุทยานนกน้ำคูขุด สะพานติณสูลานนท์ ทะเลสาบสงขลา เมืองหาดใหญ่ และหาดสมิหลา
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่ง "ดอกเฟื่องฟ้า" ดอกไม้ประจำจังหวัดสงขลา เคยปรากฏอยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดสงขลา เมื่อราวปี พ.ศ.2532 ในช่วงที่จังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 22 แต่เจ้าเฟื่องฟ้าก็มาอยู่ในคำขวัญของสงขลาได้เพียง 1-2 ปีเท่านั้น ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
คำขวัญยุคที่ 1: "นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานติณ ถิ่นธุรกิจแดนใต้"
คำขวัญยุคที่ 2: "นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานป๋า เฟื่องฟ้าสุดสวย" คำขวัญปัจจุบัน: "นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานป๋า ศูนย์การค้าแดนใต้"
"นกน้ำเพลินตา" หมายถึง "อุทยานนกน้ำคูขุด" อุทยานนกน้ำที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซีย ทิวทัศน์อันสวยงาม นกน้ำจำนวนมหาศาล บินโฉบเฉี่ยวตามเกาะแก่งบนผืนน้ำ เป็นภาพที่น่าดูชมเลยทีเดียว มากันที่ "สมิหลาเพลินใจ" อันนี้ไม่ต้องอธิบายสรรพคุณให้มากความแน่นอนว่ามันคือ "หาดสมิหลา" หาดขึ้นชื่อเมืองสงขลา "เมืองใหญ่สองทะเล" หมายถึงเมืองสงขลาที่ถูกขนาบด้วยทะเลทั้งสองด้าน ทั้งทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย "เสน่ห์สะพานป๋า" หรือที่บางยุคเรียกว่า "เสน่ห์สะพานติณ" ชื่อนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ชาวสงขลาทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี นั่นคือ "สะพานติณสูลานนท์" ชื่อสะพานที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" รัฐบุรุษและอดีตนายกรัฐมนตรีชาวสงขลา และสุดท้าย "ศูนย์การค้าแดนใต้" หมายถึง "เมืองหาดใหญ่" นั่นเอง
จากคำขวัญของจังหวัดสงขลาทั้ง 3 ยุคสมัย เห็นได้ว่าคำขวัญของจังหวัดสงขลาในช่วงสองวรรคสุดท้าย ได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เพื่อความสวยงามของถ้อยคำ คล้องจอง และตรงตามสถานการณ์นั้นๆ มาถึงปัจจุบันในบางจังหวัดได้มีการปรับเปลี่ยนคำขวัญ จนคำขวัญดั้งเดิมสูญหายไป เหมือนจังหวัดสตูล ที่แต่เดิมเคยมีคำขวัญว่า "ตะรุเตา ไก่ดำ จำปาดะ คนใจพระ งามเลิศเชิดสตูล" และปัจจุบันกลายเป็น "สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์"
CR: เล่าเรื่องเมืองสงขลา (ลุงก้อย และพี่ส้มจี๊ด)
ศาลาทวดสะบ้าย้อย ความศรัทธาสู่สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวสะบ้าย้อย
15 ธันวาคม 2567 | 129ที่มา...ชื่อบ้านสำนักขาม (สะเดา)
15 ธันวาคม 2567 | 125กุโบร์บ้านท่ายาง อดีตที่ตั้งค่ายทหารรัฐปัตตานี สถานที่ฝังศพทหารในสงครามปัตตานีกับกองทัพสยาม
15 ธันวาคม 2567 | 142ชุมชนตลาดปริก(สะเดา) ศูนย์กลางของตำบลในอดีตสมัยร.5
8 ธันวาคม 2567 | 225เปิดตำนานเจ้านางสีดอกไม้กับเจ้าเมืองหลาโต๊ะเมือง ณ บ้านนาทับ (สงขลา)
8 ธันวาคม 2567 | 463รู้จัก...จับปิ้ง อาภรณ์นุ่งห่มของเยาวสตรีในอดีต
8 ธันวาคม 2567 | 175รู้หรือไม่? หาดใหญ่ปรากฎชื่อครั้งแรกในบันทึกประวัติศาตร์มาเลเซีย ก่อนปรากฎในพงศาวดารของไทย
24 พฤศจิกายน 2567 | 756พาชมตราพระปรมาภิไธยย่อ(ภปร.) และตำนานน้ำตกฉัตรวาริน จ.นราธิวาส
24 พฤศจิกายน 2567 | 243