พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอำเภอรัตภูมิ ใช้อาคารที่ว่าการอำเภอรัตภูมิหลังเก่าเป็นสถานที่จัดแสดง พิพิธภัณฑ์ริเริ่มจากสภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิและชมรมฯ ที่เห็นคุณค่าของสถาปัตยกรรมอาคารที่ว่าการอำเภอรัตภูมิหลังเก่า ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ เคยเป็นศูนย์บริหารราชการของอำเภอรัตภูมิมาอย่างยาวนาน ครั้งเวลาผ่านมาหลายสิบปี ที่ว่าการอำเภอหลังดังกล่าวทรุดโทรมลง
ที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความทรงจำร่วมของคนอำเภอรัตภูมิ จากภาพประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีนาถเสด็จมาที่อำเภอรัตภูมิ ฉายภาพขณะประทับยืนที่หน้ามุขของที่ว่าการอำเภอสมัยนั้นว่า “ที่ว่าการอำเภอรัตตภูมิ” ซึ่งเป็นชื่อเดิมของอำเภอรัตภูมิ เมื่อครั้งเสด็จประพาสภาคใต้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2502
เมื่อที่ว่าการอำเภอหลังเก่านี้นั้นทรุดโทรมลง ทางการเห็นว่าควรรื้อถอน แต่คนในชุมชนภายใต้การนำของประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ และสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ มีความเห็นร่วมกันว่าอาคารที่ว่าการอำเภอรัตภูมิหลังเก่าเคยเป็นศูนย์บริหารราชการของอำเภอรัตภูมิมาอย่างยาวนาน และหลังจากหารือกันหลายฝ่ายแล้ว จึงมีมติให้บูรณะอาคาร และจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอำเภอรัตภูมิ เพื่ออนุสรณ์สถานแห่งความประทับใจ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้ให้โอกาสมาประทับ ณ สถานที่แห่งนี้ โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2547
ภายในพิพิธภัณฑ์นำเสนอพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และเหตุการณ์เมื่อครั้งเสด็จประเพาสภาคใต้เป็นครั้งแรก โดยดาวเด่นคือพระบรมฉายาลักษณ์พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่หน้ามุข ที่ว่าการอำเภอรัตตภูมิหลังหลังเก่า ในครั้งนั้นทรงเสด็จเข้าในเขตจังหวัดสงขลา บริเวณพื้นที่แรกที่ทรงประทับพระบาท คือหมู่ที่ 2 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ หลังจากนั้นพระองค์เสด็จเข้าสู่ที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ ทั้งสองพระองค์ได้ประทับเพื่อฉายพระรูปที่หน้ามุขของที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ ภาพพระบรมฉายาลักษณ์คราวนั้นได้ถูกบันทึก และนำมาแพร่หลายให้กับผู้คนที่สนใจในอำเภอรัตภูมิเป็นจำนวนมาก จนเรียกว่ากลายเป็นภาพที่เกือบจะมีกันทุกบ้านในอำเภอ
นอกจากนิทรรศการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 แล้ว ภายในจัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรม และเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตในอดีตของผู้คนในอำเภอรัตภูมิ ชิ้นที่โดดเด่นคือ “หวูด” หรือในภาษาถิ่นเรียกว่า “ตูด” ทำมาจากเขาควาย เดิมเป็นของนายง่วนกี่ แซ่แต้ หรือที่คนรัตภูมิ เรียกท่านว่า “แป๊ะซุ่นฮะ” เป็นคนจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่
แป๊ะซุ่นฮะเล่าว่ามาตั้งหลักปักฐานที่จังหวัดชุมพร ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และรับจ้างทั่วไป และได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวชุมพร หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิต ท่านและบุตรสาวได้ย้ายจากชุมพรมาลงหลักปักฐานที่อำเภอรัตภูมิ และมาพบรักใหม่กับแม่ม่ายชาวพรุพ้อ ชื่อ ฉิ้ม และอยู่กินกันจนมีบุตรชายทั้งหมด 5 คน ท่านได้ประกอบอาชีพขายหมู มีรถจักรยานสามล้อเป็นพาหนะ 1 คัน ทุกวันท่านจะต้องออกหาซื้อหมูจากชาวบ้าน แล้วนำมาฆ่าชำแหละ ขายตามตลาดนัดใกล้บ้าน ถ้าขายในตลาดนัดไม่หมด ท่านก็จะปั่นจักรยานสามล้อ ออกขายในหมู่บ้าน โดยปั่นไป เป่าหวูดหรือตูดเขาควายส่งเสียงไปแต่ไกล ชาวบ้านได้ยินเสียงก็เตรียมเงินทองไปดักหน้าซื้อ การเป่าหวูด ต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ คนทั่วไป เป่าไม่ค่อยดัง หวูด ไม่ได้เป็นเครื่องดนตรี เพราะมีเพียง เสียงเดียว แต่เป็นอุปกรณ์ส่งสัญญาณ
วัตถุที่น่าสนใจชิ้นต่อมาคือ กล้องถ่ายภาพขาวดำ เป็นของนายดิเรก ทองคำ เจ้าของห้องภาพ “สุวรรณภูมิ” ร้านถ่ายภาพเพียงแห่งเดียวในอำเภอรัตภูมิ เดิมเป็นคนสนใจการถ่ายภาพด้วยกล้องสะพายมาก่อน ได้รับจ้างถ่ายภาพกิจกรรมงานต่างๆ มากมาย ในอำเภอรัตภูมิมีเพียงเจ้าเดียว ตอนหลังจึงตั้งห้องภาพรับจ้างถ่ายภาพด้วยฟีล์มขาวดำทุกขนาด โดยในห้องภาพจะมีกล้องถ่ายภาพชุดใหญ่ คือชุดที่ได้บริจาคให้แก่พิพิธภัณฑ์รัตภูมิ ปัจจุบันห้องภาพนี้ปิดตัวไปแล้ว
คอลเล็กชั่นตะเกียงที่ได้รับบริจาคมา มีตะเกียงหลายแบบที่ชาวบ้านเคยใช้งาน โดยเฉพาะตะเกียงเจ้าพายุ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตะเกียงกล้อง ซึ่งเป็นตะเกียงที่ให้แสงสว่างได้กว้างไกลกว่าตะเกียงชนิดอื่น ตะเกียงประเภทนี้นอกจากใช้ในบ้านเรือนแล้ว ยังได้ถูกนำไปใช้ในโคมไฟตามถนนหนทางเมื่อครั้งที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงในภาคใต้เมื่อ 60 – 70 ปี ก่อนจะนิยมใช้กับการแสดงหนังตะลุง ดังคำกลอนหนังตะลุงโบราณที่ว่า “รีบเปิดลมเข้าสักหน่อยปล่อยน้ำมัน พอลมดันเข็มแกว่งแจ้งนิทาน”
นอกจากนี้ยังจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆ อาทิ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือดักจับสัตว์น้ำ ที่ได้รับบริจาคจากคนในชุมชน
ภาพข้อมูลบทความ : -ปณิตา สระวาสี รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำข้อมูลพิพิธภัณฑ์ภาคใต้ เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคใต้ สนับสนุนโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน) 2564.
เปิดประวัติ...บ้านทุ่งแหลเหนือ ต.นาหมอศรี อ.นาทวี
16 กุมภาพันธ์ 2568 | 101หลวงพ่อไชย กับตำนานปฏิหารย์ที่่วัดควนโส อำเภอควนเนียง
16 กุมภาพันธ์ 2568 | 114แหล่งน้ำเลี้ยงชีพ สู่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สถานที่บนบานศาลกล่าว ณ บ้านหาร(บางกล่ำ)
9 กุมภาพันธ์ 2568 | 155ชมสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-ตะวันตก บนอาคารสถานีรถไฟสงขลา
9 กุมภาพันธ์ 2568 | 284ถ้ำน้ำใส สถานที่ปฏิบัติธรรมและแหล่งรวมจิตในของชาวบ้านสะบ้าย้อย
9 กุมภาพันธ์ 2568 | 175ย้อนชม...มีดน้ำน้อย ภูมิปัญญาดั้งเดิม ของขึ้นชื่อบ้านน้ำน้อยในอดีต
2 กุมภาพันธ์ 2568 | 219เปิดประวัติศาสตร์ การก่อร่างสร้างชุมชนบ้านคลองแงะ สะเดา
2 กุมภาพันธ์ 2568 | 247สักการะหลวงพ่อร้อยปี บูชาท้าวเวสสุวรรณสูงที่สุดในภาคใต้ วัดแช่มอุทิศสงขลา
2 กุมภาพันธ์ 2568 | 228