อีกหนึ่งร้านไอติมคู่เมืองสงขลา ที่ถือได้ว่าเป็นตำนานของไอติมมาอย่างยาวนาน คงหนีไม่พ้นร้าน ร้านบันหลีเฮง ไอศรีมถั่วเขียวโบราณ เป็นอีกหนึ่งร้านไอติมเก่าแก่บนถนนนางงามม อายุอานามก็ปาไป 100 กว่า ปีแล้วเช่นกัน แรกเริ่มเดิมที่อาก๋ง และอาม่า เดินทางมาจากเมืองจีนและมาขายไอติมที่ถนนนางงามโดยใช้สูตรที่นำติดตัวมาจากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน และตอนนี้ร้านก็ส่งต่อมาที่รุ่นลูกรุ่นหลานแล้ว
แม้เวลาจะผ่านไปทางร้านยังคงรักษาสูตรการทำไอติมแบบดั่งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง คือการใช้ถังไม้แบบเก่าในการปั่นไอศรีม และยังใส่ใจในขั้นตอนการเลือกถั่วเขียวที่จะมาต้มอย่างพิถีพิถัน เมนูไอติมของร้านมีให้เลือกหลายเมนู เช่น ไอติมไข่แข็ง ทรงเครื่อง ภูเขาไฟ หวานเย็นลิ้นจี้ ทรงเครื่องไข่แข็ง และ ไอติมถั่วเขียว
เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ทายาทรุ่นที่ 4 แห่งร้านไอติมบันหลีเฮงแห่งเมืองสงขลา โดยเขาผู้นั้นมีชื่อว่า นายศุภวิชญ์ อัครวิเนค อายุ 28 ปี ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทายาทรุ่นที่ 4 ของร้านไอติม
ช่วยเล่าถึงประวัติความเป็นมาของร้านให้เราฟังหน่อย
- ไอศกรีมถั่วเขียวโบราณร้านบันหลีเฮงเป็นสูตรที่ได้รับจากอาก๋ง และอาม่า (คุณปู่ และคุณย่า) ของคุณไชยวัฒน์ อัครวิเนค ทายาทผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 3 โดยทั้งสองได้ เดินทางมาจากมลฑลฮกเกี้ยง สาธารณรัฐประชาชนจีนมายังเมืองสงขลา ประเทศไทย เมื่อประมาณปี พ.ศ.2473 การค้าขายบริเวณถนนเก้าห้องช่วงเวลา ดังกล่าวอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองมาก และนับได้ว่าเมืองสงขลาเป็นชุมทางการค้าสำคัญหนึ่งของ ชาวจีนโพ้นทะเล
ในระยะเริ่มแรก คุณปู่ และคุณย่าของ คุณลุงไชยวัฒน์ได้ประกอบกิจการร้านน้ำชา - กาแฟ ร่วมกับการขายไอศกรีมถั่วเขียวโบราณ ไอศกรีมกะทิสด และไอศกรีมวนิลา ไอศกรีมทั่วเขียวโบราณนั้น เมื่อรับประทานแล้วจะสัมผัสได้ ถึงรสหวานเย็นของไอศกรีมเนื้อละมุนที่ทำจากกะทิสด หรือแม้แต่ไอศกรีมวนิลาก็ล้วน เป็นสูตรดั้งเดิมของทางร้าน
ที่ยังคงใช้กระบวนการผลิตแบบเดิม เคล็ดลับอีกหนึ่งประการ สำหรับการทำถั่วเขียวต้ม คือ การใช้ถั่วเขียวที่สุด และสะอาด เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพ และความพึงพอใจของลูกค้า
เดิมทีไอติม ทำโดยใครเป็นรุ่นแรก มีอายุมากี่ปีแล้วคะ?
-เดิมที่ก็เป็นรุ่นของอาก๋ง และอาม่า แล้วมาถึง คุณไชยวัฒน์ อัครวิเนค (คุณพ่อ) ทายาทผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 3 แล้วก็มาเราทายาทรุ่นที่ 4 ถ้าให้นับโดยรวมแล้วประมาณ 100 กว่าปีครับ
เมนูเด่นๆ ของเรา ที่ไม่เหมือนคนอื่น ทำให้ต้องลองหรือให้ชิม
- ถ้าเด่นจริงๆเลย ที่ลูกค้ามาต้องสั่งและเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน จะเป็นไอศครีมถั่วเขียว ไอศครีมถั่วเขียวไข่แข็ง ไอศรีมไอแข็ง แล้วก็หวานเย็นจินลี่ ที่เราแนะนำอยากให้ทาน ส่วนใครจะชอบแบบไหน ทางร้านก็จัดให้ได้ครับ
-ส่วนในร้านก็จะมีเมนูให้เลือกทั้งหมด 10 เมนู 1.ไอติมถั่วเขียว 2.ไอติมทรงเครื่อง 3.ไอติมภูเขาไฟ 4.หวานเย็นจิ้นลี่ 5.ไอติมใส่กล้วย 6.ไอิมถัวเขียวไข่แข็ง 7.ไอติมทรงเครื่องไข่แข็ง 8.ไอติมทรงเครื่องไข่แข็ง 9.ไอติมถั่วเครื่องทรงเครื่อง 10. เป็นไอติม COMBO คือรวมทุกอย่างได้เลยครับใน 1 ถ้วยจุกๆ (เมนูสุดท้ายถ้ามากินกันหลายคนคนสั่งเยอะ เพราะได้กินทุกๆอย่าง ทั้งถั่วเขียวไข่แข็งทรงเครื่อง)
อยากทราบชื่อที่มาของร้านทำไมต้อง "บันหลีเฮง" มีความหมายแปลว่าอะไร
-ชื่อนี้เป็นชื่อที่คุณทวดตั้งให้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งร้านในยุคแรกๆ ความหมายก็แปลว่า รวยหมื่นลี้ ประมาณว่า ขอให้ร่ำรวยเป็นหมื่นๆปี
จริงๆ ครอบครัวเรายึดอาชีพนี้มาตั้งสมัยคุณทวด ก็แอบเสียดายหากไม่มีใครสานต่อเลยเป็นจุดเปลี่ยนของผม เดิมทีคุณพ่อก็เป็นคนทำ หลังๆผมเลยมาลงมือทำและรับช่วงต่อแทนเขา เนื่องจากท่านก็อายุมากแล้ว
กลยุทธ์ การค้า ที่ทำให้ไอติมเรายาวนานมาจนถึงทุกวันนี้
- จริงส่วนนี้เรามองว่าเป็นความจริงใจที่เรามีให้กับลูกค้ามาส่งต่อผ่านรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงรุ่นผมรุนที่4 เรายังคงเน้นของสด ใหม่ และรสชาติไอติมที่เป็นโบราณแท้ ราคาไม่แพง ที่ทำให้คนรู้สึกว่ากลับมาเมื่อไหร่ ต้องนึกถึงชื่อนี้อีกต้องกลับมาซ้ำหรือบอกต่อกัน ทั้งในส่วนของราคา เราไม่ขายแพง วัตถุดิบจัดเต็มสดใหม่วันต่อวัน นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดจากเรา
อะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนที่เราต้องสาสานต่อทายาท บันหลีเฮง
-อย่างกล่าวไปผมจบ ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมเครื่องกล เราเรียนมาทางด้านนี้ เราก็ต้องไปเป็นสายวิศวะตอนนั้นน่าจะประมาณ 3 ปี ก่อนจะกลับมาช่วยงานที่ร้านเนื่องจากไม่มีใครสานต่อ ส่วนที่เราเห็นรูปแบบร้านใหม่ ตรงนั้น ก็คือเรามาดีไซน์ออกแบบร้านกันใหม่ มีการเพิ่มเมนูใหม่ๆไปบ้างเป็นโฟลท เพื่อไม่ให้ลูกค้าเบื่อและมีตัวเลือกในการบริโภคมากขึ้น มาตั้งที่สาขาถนนนาทวี ติดถนนใหญ่เห็นชัดมาก
สำหรับใครที่อยากทานไอติมบันหลีเฮง แวะมาที่ร้านได้ ร้านตั้งอยู่หน้าถนนาทวี ข้างๆกับโรงสงขลาเก่า ตรงข้ามกับกรมป่าไม้สงขลา ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น. "หากคิดถึงไอศกรีมถั่วเขียวโบราณหารับประทานได้ที่ร้านนี้ครับ"
"ป้าบ่วย" เจ้าของร้านฮับเซ่ง สภากาแฟที่ตั้งอยู่คู่เมืองเก่าสงขลาร่วม 100 ปี
25 ตุลาคม 2567 | 2,172"โกหล่าย" ทายาทรุ่นที่ 2 ร้านตัดผมสมบูรณ์เกษาหาดใหญ่
21 สิงหาคม 2567 | 935ดอกผลของความเพียร สู่ทุเรียนสองฝนสวนบังบา สวนแรกเริ่มจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียน(เขาพระ)
18 สิงหาคม 2567 | 623ป้าแอด หญิงแกร่งแห่งอำเภอรัตภูมิ ยึดอาชีพทำนาจนเกิดเป็นแบรนด์ข้าวสังข์หยด สบายแสนคูหาใต้
23 มิถุนายน 2567 | 1,037"ลุงแจ้ว"สามล้อถีบรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสงขลา ขี่สามล้อถีบมากว่า 59 ปีกับอาชีพที่รักและมีความสุข
13 มิถุนายน 2567 | 1,566"หลวงทุ่งจินดา" ขวัญใจเด็กสะเดา แจกนมขนมฟรี ทำมานานกว่า 17 ปี ผู้ให้ที่มีแต่ความสุข
29 เมษายน 2567 | 1,105"คนสงขลา" ศิษย์เก่า ม.ขอนแก่น รุ่นที่ 1หมายเลขนักศึกษา 001 คณะเกษตรศาสตร์
6 กุมภาพันธ์ 2567 | 28,166