"กูกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช ขอระกาศให้พวกเมิงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษ ได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้อีมันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมากษัตริย์ ฤๅ กระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเดือร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโครตให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่า "อาภากร" ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาฝืนแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น"
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีไทย หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า "เสด็จเตี่ย" เป็นที่เคารพนับถือของคนโดยทั่วไปในภาคใต้ ก่อตั้งโดยกลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล จังหวัดสงขลา ได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการปกครอง ร่วมกับกองทัพเรือ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2530 เพื่อให้ชาวเรือ ได้สักการะบูชาก่อนออกไปประกอบอาชีพในทะเล เพราะมีความเชื่อว่าท่านจะช่วยเหลือให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายจากพายุและเภทภัยต่าง ๆ ผู้คนนิยมมาสักการะขอพรอย่างไม่ขาดสายทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ภายในเทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สุดปลายแหลมสนอ่อน อยู่บริเวณเดียวกันกับสวนสองทะเลสงขลา พญานาคพ่นน้ำสงขลา เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อระลึกถึงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาทัพเรือไทย ด้านหน้าติดทะเล ในบริเวณเดียวกันมีปืนใหญ่จำลอง หากเข้าไปในศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เราจะได้อ่านพระประวัติของท่าน วันนี้หาดใหญ่โฟกัสนำพระประวัติของท่านให้อ่านกันก่อน
พระประวัติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นับลำดับราชสกุล มีพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์" ประสูติในพระบรมมหาาราชวัง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2423 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 3 ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง จุลศักราช 1242 เวลา 14.57 น. และทรงเป็นพระองค์เจ้าลูกยาเธอพระองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาเจ้าพระยาสุรวศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) พระองค์ทรงมีพระกนิษฐาและพระอนุชาร่วมพระมารดา 2 พระองค์ คือ พระองค์หญิงอรองค์อรรคยุพา (สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์) และพระองค์เจ้าสุริยงค์ ประยูรพันธ์ (ต่อมาได้ทรงพระยศเป็นกรมหมื่นไชยาศรีสุริยโยภาส)
เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงได้รับการศึกษาขั้นแรกในพระบรมราชวัง มีพระยาอิศรพันธ์โสภร (พูน อิศรรางกูร) เป็นพระอาจารย์ และทรงศึกษาภาษาอังกฤษกับ Mr. Morant ชาวอังกฤษ ทรงเข้าเป็นนักเรียนหลวง ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ จนถึงทรงโสกันต์ เมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า รัชกาลที่ 6 (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพวาราวดี ขณะนั้น) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2438 ทรงเข้าโรงเรียนกินนอนที่สอนวิชาชั้นต้นสำหรับเตรียมเข้าศึกษาโรงเรียนนายเรืออังกฤษ จึงนับเป็นพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์แรกของพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้เสด็จไปทรงศึกษาเกี่ยวกับวิชาการทหารเรือยังต่างประเทศ ทั้งนี้กิจการทหารเรือในขณะนั้นต้องอาศัยชาวต่างประเทศเป็นผู้บัญชาการเรือ และผู้บัญชาการป้อม
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2443 ทรงได้รับพระราชทานยศเป็นนายเรือโท (เทียบเท่านาวาตรีในปัจจุบัน) ทรงรับราชการในตำแหน่ง "แฟลคเลฟเตอร์แนล" (นายธง) ผู้บัญชาการทหารเรือพลเรือโทพระเรือโทพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ในระหว่างรับราชการ พระองค์ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือ จนทหารเรือไทยสามารถนำเรือได้เองไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างประเทศอีกต่อไป
ขณะทรงออกจากประจำการชั่วคราว ระหว่างปี พ.ศ.2454 - 2460 ได้ทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ ทรงเขียนตำรายาแผนโบราณในสมุดข่อย ด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง โดยทรงตั้งชื่อตำรายาเล่มนี้ว่า "พระคัมภีร์ อติสาระวรรคโบราณกรรม และปัจจุบันกรรม" และได้ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่คนทั่วไปด้วยพระเมตตาโดยไม่คิดค่ารักษาหรือค่ายาแต่อย่างใด จนเป้นที่นับถือของคนทั่วไปในนามพระองค์ว่า "หมอพร"
หลังจากพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ทรงสำเร็จราชการศึกษาวิชาการทางด้านทหารเรือ จากประเทศอังกฤษแล้ว ทรงเข้ารับราชการทหารเรือ ทรงริเริ่มกำหนดแบบสัญญาณธงสองมือและโคมไฟ ตลอดจนเริ่มฝึก "พลอาณัติสัญญาณ" (ทัศนสัญญาณ) ขึ้นเป็นครั้งแรก ทรงปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรียนนายเรือและฝึกสอนนักเรียนนายเรือด้วยพระองค์เอง โปรดให้สร้าง "โรงเรียนช่างกล" ทรงนำนักเรียนนายเรือทั้งหมดไปฝึกหัดทางทะเลและไปอวดธงต่างประเทศ ที่สิงคโปร์ ปัตตาเวีย ชวา และเกาะบิลิทัน ทรงปลูกฝังความรักชาติให้แกนักเรียนนายเรือ ทรงโปรดให้นักเรียนเรียกท่านว่า สีเตี่ย หรือ เสด็จเตี่ย เพื่อตัดความยุ่งยากในการใช้ราชาศัพท์ ตลอดจนสร้างความสนิทสนมและเป็นกันเอง พระองค์จึงทรงได้รับยกย่อง นับถือและบูชาจากทหารเรือทุกชั้นยศด้วยความจริงใจ กองทัพเรือจึงขนานนามพระองค์ว่า "องค์พระบิดาของทหารเรือไทย"
19 พฤษภาคม 2466 เป็นวันที่พระองค์ประชวรหนัก โดยก่อนหน้านี้ได้ประชวรพระโรคไข้หวัดใหญ่อยู่ 3 วันแล้ว แต่พระโรคกำเริบหนักเอาในวันนี้ จึงสิ้นพระชนม์ ณ ที่ประทับพัก ตำบลหาดทรายรี จังหวัดชุมพร เวล 11.40 น. พระชนมพรรษษได้ 44 ปี
หากเข้าไปในศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หลายคนมักเข้าไปขอพร บนบานศาลกล่าว เพื่อให้ได้รับความโชคดีหรือพ้นจากอันตรายต่าง ๆ
ให้เราท่องคาถาคาถาบูชา กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ตั้ง นะโม 3 จบ โอม ชุมพรจุติ สิทธิกะระนัง สุโข นะโม พุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ
จากนั้นก็กล่าวคำคำอธิษฐาน
สาธุ ข้าพเจ้า______ขอกราบสักการะ ต่อหน้าพระบรมรูปและดวงพระวิญญาณของพลเรือเอก พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งอยู่เบื้องหน้านี้ ข้าพระพุทธเจ้าขออุทิศบุญกุศลที่ได้สร้างข้ามชาติข้ามภพถวายแด่ดวงพระวิญญาณของพระองค์ ขอดวงพระวิญญาณของพระองค์จงสุขพระเกษมสำราญในสวรรค์ชั้นฟ้า ข้าพระพุทธเจ้ามีความตั้งใจอันใดที่จะกระทำในแผ่นดินนี้ ด้วยฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มิงอมืองอเท้าแล้วไซร้ สิ่งนั้นการนั้นงานนั้นเป็นไปโดยชอบประกอบด้วยธรรม เป็นไปด้วยความจงรักภักดีต่อองค์พระกษัตริย์เจ้าแห่งราชจักรีวงศ์ ต่อแผ่นดิน ศรัทธาต่อพระศาสนา ขอบารมีของกรมหลวงชุมพร โปรดดลบันดาลประทานพรให้กิจนั้นการนั้นงานนั้นจงประสบสำเร็จดั่งปรารถนาจงมีความรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองด้วยทรัพย์สมบัติ รุ่งเรือง รุ่งโรจน์สำเร็จประโยชน์ดั่งประสงค์ แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมาดั่งจำนง เป็นที่รักแก่มนุษย์และเทพยดาทั้งหลาย จากนี้จะทำการทั้งหลายในแผ่นดินจงสำเร็จทั้งสิ้นดั่งคำอธิษฐาน และเป็นสัมมาทิฎฐินั้นด้วยทุกประการ ขอบารมีของพระองค์จงดลบันดาลประทานพรให้จงสำเร็จสมประสงค์ดั่งคำอธิษฐานแก่ข้าพเจ้าและครอบครัว บุตรหลานบริวาร ญาติมิตร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วย เทอญ
เครื่องสักการะ
ดอกกุหลาบแดง พวงมาลัยดอกมะลิ ประทัด ยิงปืนถวายด้วยกระสุนจริง สมอเรือ พังงาเรือ ปืนใหญ่จำลอง เรือรบจำลอง เครื่องสังเวย น้ำตาลเมา เบียร์ ซิกก้า น้ำชาจีน อาหารไทยรสจัด ขนมจีนน้ำพริก กุ้ง หมูนอนตอง (หมูสามชั้นต้มแล้ววางบนใบตอง) เป็ด ไก่ ปลา ห้ามถวายพะแนงเนื้อเด็ดขาด ขนมหวานทั่วไป ผลไม้ ห้ามถวายพวงมาลัยบนเศียรท่านเด็ดขาด
ทราบถึงพระประวัติ และคาถาบูชาท่านไปแล้ว ใครที่แวะเวียนไปสวนสองทะเล ก็เข้าไปสักการะขอพรท่านเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองกันได้นะ
ขอบคุณภาพ : ปกแข็ง
ศาลเจ้าแม่กวนอิมสวนหมาก ศาลเจ้าแห่งแรกที่ริเริ่มทำโรงทานเจในสงขลา
20 เมษายน 2568 | 201พาชม...บ้านขุนตระการตะเครียะเขต บ้านเก่าโบราณนับร้อยปี "บ้าน 108 เสา"
30 มีนาคม 2568 | 791รู้หม้ายว่า? สงขลาเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีวันประจำจังหวัด
30 มีนาคม 2568 | 594เปิดตำนานความเชื่อ พ่อปู่ภุชงค์-แม่ย่าทองคำ วัดโคกเปี้ยว สงขลา
30 มีนาคม 2568 | 441ศาลเจ้าพ่อทวดหมอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ตำบลคูขุด อ.สทิงพระ
2 มีนาคม 2568 | 778เรื่องเล่าจากความทรงจำบ้านท่าแช สู่ตำบลคลองอู่ตะเภาในปัจจุบัน
2 มีนาคม 2568 | 686ความรู้คู่การเวลา...ศึกษาหนังสือบุดโบราณ ณ วัดยางทอง(สะเดา)
2 มีนาคม 2568 | 665