บอกก่อนเลยว่า...เจดีย์ทั้งสององค์นี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชแต่อย่างใด
"หัวเขาแดง" สถานที่ที่เราชาวสงขลารู้จักเป็นอย่างดี บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองท่าที่สำคัญ "เขาแดง" เป็นภูเขาที่ปรากฏป้อมปราการอยู่หลายแห่ง กระจัดกระจายไปทัว มีทั้งบนยอดเขาและพื้นที่โดยรอบ บนยอดเขาแดงยังปรากฏเจดีย์โบราณที่เราเรียกกันว่า "เจดีย์สองพี่น้อง" องค์แรกเป็นเจดีย์องค์พี่ ลักษณะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ก่อด้วยหินฉาบปูน ยอดปรักหักพัง มีสีดำ คนทั่วไปเรียกว่า “เจดีย์องค์ดำ” สร้างเมื่อ พ.ศ.2375 - 2376 โดยเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) หรือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ส่วนเจดีย์องค์ที่สองเป็นเจดีย์องค์น้อง ลักษณะของเจดีย์เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมเช่นกัน องค์เจดีย์ก่อด้วยอิฐฉาบปูน มีสีขาว คนทั่วไปเรียก “เจดีย์องค์ขาว” สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ.2382-2484 โดยพระยาศรีพิพัฒน์ รัตนราชโกษา (ทัด บุนนาค) หรือสมเด็จเจ้าพระยามหาพิชัยญาติ ผู้เป็นน้องร่วมมารดากับเจ้าพระยาพระคลังฯ ชาวบ้านเรียกเจดีย์สององค์นี้ว่า “เจดีย์สองพี่น้อง” ระหว่างองค์เจดีย์ทั้งสองมีศาลาเก๋งจีน ชำรุดเหลือแต่พื้นที่ผนังที่เจาะช่องหน้าต่างเป็นวงกลม ปัจจุบันองค์เจดีย์ทั้งสองได้รับการขุดแต่งบูรณะจากหน่วยศิลปากรที่ 9 สงขลา กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ.2525
ย้อนไปในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) หลายครั้งที่เมืองสงขลาถูกรุกราน ทำให้กรุงเทพต้องส่งทัพหลวงลงมาช่วยสงขลา อีกทั้งสงขลายังเป็นสถานที่ชุมนุมกองทัพอีกด้วย ซึ่งในปีพ.ศ.2375 พระยาพระคลังนำทัพลงมารักษาของขัณฑสีมาในเขตเมืองชายแดนภาคใต้ พระยาพระคลังสามารถเอาชนะศึกครั้งนั้น และได้มาชุมนุมกองทัพที่หัวเขาแดง พร้อมทั้งสร้างอนุสรณ์แห่งชัยชนะไว้บนยอดเขา ปรากฏเป็นเจดีย์องค์สีดำ ดังข้อความที่ปรากฏในพงศาวดารเมืองสงขลาว่า "...เสร็จราชการแล้ว ฯพณฯแม่ทัพใหญ่กลับเข้ามา ณ เมืองสงขลา จัดแจงก่อพระเจดีย์ไว้ที่เขาเมืองสงขลาองค์หนึ่ง กับทำเก๋งไว้ริมน้ำชาย ทเลค่ายม่วงไว้แห่งหนึ่ง เสร็จแล้วกับเข้าไปกรุงเทพฯ..." สำหรับเจดีย์องค์ขาว สร้างขึ้นโดยพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา เมื่อครั้งยกทัพมารบที่ปัตตานีและไทรบุรีช่วงปีพ.ศ.2382 ซึ่งก็ได้ปรากฏข้อความในพงศาวดารเมืองสงขลาที่ได้กล่าวว่า ราวจุลศักราช 1200 ตนกูหมัด สะวะ หลานของเจ้าพระยาไทรบุรี ยกทัพมาตีไทรบุรีคืน ครั้นเมื่อตีมาถึงจะนะ เทพา และหนองจิก แขกในเมืองนี้ก็สมคบคิดร่วมกันตีเมืองสงขลา กองทัพของพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ใช้เวลาปราบปรามถึง 2 ปี เมื่อปราบกบฏได้ จึงสร้างพระเจดีย์ขึ้น ปรากฏหลักฐานว่า "...พระยาศรีพิพัฒน์แม่ทัพจัดราชการอยู่ที่เมืองสงขลา 2 ปี และได้สถาปนาพระเจดีย์ไว้บนเขาเมืองสงขลาองค์หนึ่งเสร็จแล้ว จึงได้ยกทัพกลับเข้าไป ณ กรุงเทพฯ..."
ภาพ: เทศบาลเมืองสิงหนคร
เขียน: หาดใหญ่โฟกัส
เหตุอัศจรรย์ระหว่างการก่อสร้าง ธรรมสถานพระโพธิสัตว์กวนอิม (เขาเทียมดา)
12 มกราคม 2568 | 209เปิดตำนาน...ปู่เจ้าเขาเขียวแห่งสิงหนคร
12 มกราคม 2568 | 182ในหลวงรัชกาลที่9 กับการพัฒนาจังหวัดสงขลา
12 มกราคม 2568 | 202ย้อนประวัติจวนเจ้าเมืองสงขลา สมัยธนบุรี - รัตนโกสินทร์
5 มกราคม 2568 | 202พาชมพระสยามเทวาธิราชจำลอง 1 ใน 5 หัวเมือง ประดิษฐานอยู่ที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
5 มกราคม 2568 | 239คนสงขลากับความเชื่อเรื่องทวด ที่ปรากฎในโองการทวดอารักษ์ศักดิ์สิทธิ์จังหวัดสงขลา
5 มกราคม 2568 | 249ศาลาทวดสะบ้าย้อย ความศรัทธาสู่สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวสะบ้าย้อย
15 ธันวาคม 2567 | 369ที่มา...ชื่อบ้านสำนักขาม (สะเดา)
15 ธันวาคม 2567 | 317