หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

หนมซั้ง ของหรอยแดนใต้
23 สิงหาคม 2560 | 34,511

สะพานไม้ไผ่ ทอดฝั่งฝันให้ก้าวเดิน เผชิญเรื่องราวอันมากมาย
มีดี และมีร้าย ประปรายบนสะพานไม้คลอนแคลน

บรรยากาศยามบ่ายนั่งฟังเพลงสบายอารมณ์ ได้ยินคำว่าไม้ไผ่ ในเนื้อเพลง สมองสั่งการให้นึกถึงต้นไผ่ขึ้นมาทันที ทั้งลำต้น หน่อ กิ่งก้าน และใบ ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น แต่พอนึกถึงใบไผ่นี่สิ..ขนมชนิดนี้ก็ผุดขึ้นมา

ขนมพื้นบ้านปักษ์ใต้ที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมสีเหลืองใสคล้ายข้าวต้มสามเหลี่ยม จะกินเปล่า ๆ ก็อร่อยนุ่มลิ้น หรือจะเพิ่มความหวานจิ้มน้ำตาลอ้อยอร่อยได้อีกแบบ หรือจะให้ถึงใจต้องนำใส่ในน้ำเชื่อมเติมน้ำแข็งลงไปรับรองจะติดใจ หลาย ๆ คนคงออกแล้วว่าขนมที่กล่าวมานี้ คือ ขนมซั้ง (อันนี้แถวบ้านผู้เขียนเขาเรียกกันแบบนี้) แต่ละพื้นที่อาจจะเรียกแตกต่างกันไป เช่น ขนมจ้าง , ขนมซัง , ขนมจั้ง,  กี่จ่าง เป็นต้น

ดั้งเดิมเป็นขนมพื้นเมืองของประเทศจีน ต่อมาได้แพร่หลายไปในหลายประเทศ เนื่องจากคนจีนสมัยก่อน ได้อพยพย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น บ้างก็ไปทำการค้า บ้างก็ไปทำงาน ดั่งคำกล่าว เสื่อผืนหมอนใบ ที่เรา ๆ เคยได้ยิน กระทั่งสืบทอดลงมายังภาคใต้บ้านเรา  เสน่ห์และลักษณะที่ดีของขนมซั้ง คือ ต้องใสเหมือนแก้ว ไม่มีรสขม และเหนียวนุ่ม

วิธีการทำก็ง่ายมากๆ วันนี้มีฉบับย่อมาฝากกัน

1. การทำขนมซั้งนั้นยากตรงที่ไปหาใบไม้ใผ่ป่า อย่างอื่นก็ไม่ยาก
2. ล้างข้าวหนียวด้วยน้ำสะอาด 2 - 3 ครั้ง โดยไม่ต้องแช่ พอสะเด็ดน้ำก็นำด่าง (สมัยก่อน ทำน้ำด่างโดยใช้ งวงตาลแห้งมาเผาแล้วนำขี้เถ้ามาแช่ไว้สัก 5-6วัน จึงตักน้ำใส ๆ มาใช้ แต่สมัยนี้ หาซื้อได้ง่าย ๆ จากตลาด) มาคลุกให้ทั่ว
3. คลุกน้ำด่างให้พอข้าวเหนียวออกสีเหลือง และเม็ดข้าวนิ่ม ๆ พร้อมที่จะห่อมัดจั้งแล้ว
4. ตักหนึ่งช้อนลงกลางใบไม้ไผ่ ใช้สองมือโอบจีบหัวท้ายพับมุมหมุนพริ้วไปเป็นมุมสามเหลี่ยม แล้วดึงเชือกมามัด เมื่อได้ขนมจั้งพวงใหญ่
5. นำไปต้มในปี๊บเติมน้ำพอท่วม ประมาณ 4 ชั่วโมง การต้มนานจะช่วยให้ขนมเหนียวดีหลังต้มเสร็จทิ้งไว้สักครู่ รับประทานได้ทันที

มาแนะนำวิธีกินกันสักนิด

วิธีกินก็สามารถกินได้ตามแบบที่แต่ละคนชอบ บางคนแกะใส่ในน้ำเชื่อม แล้วโรยหน้าด้วยน้ำแข็งเย็น ๆ กินได้อร่อยชื่นใจดี หรือบางคนก็ใส่ในน้ำแข็งใส หรือจะกินแบบง่าย ๆ จิ้มกินกับน้ำตาลอ้อยก็อร่อยฟิน แต่น่าเสียดายที่เดี๋ยวนี้ ต้นไผ่ถูกรุกล้ำแทนที่ด้วยสวนยางพาราบ้าง สวนปาล์มบ้าง  ดังนั้น วัฒนธรรมการกิน ขนมซั้งจึงเริ่มเลือนหายไปอย่างน่าเสียดาย

 

ขอบคุณภาพจาก : homeEST , คมชัดลึก ,  thummada.com , Pantip

เรียบเรียง : HatyaiFocus

เรื่องที่เกี่ยวข้อง