ล่าสุด 4 ส.ค....รถจักรดีเซล GEK หมายเลข 4044 ได้ถูกตัดบัญชีออกจากการประจำการเป็นที่เรียบร้อยแล้วแล้ว ซึ่งหัวรถจักรดีเซลคันดังกล่าว เป็นหัวรถจักรที่เคยมาประจำการและจอดยังสถานีรถไฟสงขลาอีกด้วย
หากย้อนไปเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว (8 พ.ย.2529) รถจักรดีเซลคันนี้ เป็นแกนนำหัวรถจักรขบวนอื่น ๆ พากันวิ่งพุ่งเข้าชนสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) โดยไม่มีพลขับรถไฟควบคุมไป เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความบังเอิญหลาย ๆ อย่าง
วันนั้น...เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบปากคำพนักงานซ่อมบำรุงระดับหัวหน้าของโรงซ่อมรถจักรบางซื่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเดินรถ และเจ้าหน้าที่หอสัญญาณ
ซึ่งผลจากการสอบปากคำทำให้ทราบว่า หัวรถจักรดีเซล จี.อี. ที่เกิดอุบัติเหตุ อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีทุกคัน เมื่อเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงเสร็จเรียบร้อย ก็นำหัวจักรรถไฟมาจอดพ่วงเรียงกันไว้ ในรางที่ 6 ของโรงซ่อม โดยมีหัวรถจักรหมายเลข 4044 จอดอยู่คันหน้าสุด
ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นพนักงานผู้ใดขึ้นไปติดเครื่องยนต์หมายเลข 4044 ซึ่งได้มีการเข้าคันบังคับเดินหน้าและล็อกคันเร่งเอาไว้ สันนิษฐานว่าอาจลงจากรถเพื่อไปรับโทรศัพท์ในขณะนั้นพอดี
หัวรถจักรรุ่นดังกล่าว มีระบบทำงานโดยใช้ลมอัด เมื่อเดินเครื่องไว้สักครู่ ลมอัดจะเข้าไปในระบบทำให้ทำงานครบวงจร จึงทำให้รถออกวิ่งโดยอัตโนมัติ นำหัวรถจักรอีกสามคันที่พ่วงอยู่ออกไปด้วย และได้กระแทกกับหัวรถจักรที่จอดอยู่ข้างหน้าอีก 2 คัน ที่จอดในรางเดียวกัน ตะขอพ่วงได้ล็อกอัตโนมัติ ทำให้รถจักรอีก 2 คันติดพ่วงไปด้วย
ในที่สุด...ภาพที่ทุกคนไม่คาดคิดได้ปรากฏขึ้น เมื่อขบวนรถจักรดีเซลกลุ่มดังกล่าว ได้พุ่งเข้าชนแป้นปะทะ บริเวณพื้นชานชาลา ชนแผงป้ายตารางเดินรถขนาดใหญ่โค่นลงมาทับผู้คน บริเวณอาคารหน่วยประชาสัมพันธ์ ที่ทำการสาขาธนาคารกรุงเทพ และสร้างความ้สียหายต่ออาคารร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณสถานี เรียกได้ว่าพังพินาศ เสียงพุ่งชนดังสนั่นหวั่นไหว เศษข้าวของเกลื่อนกลาด เสียงผู้คนร้องหวีดเสียงดัง จนกระทั่งรถจักรนำขบวนได้ล้มตะแคงขวางทาง ขบวนรถจักรดังกล่าว จึงหยุดสิ้นฤทธิ์ตรงหน้าประตูทางเข้าอาคารสถานี
หลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานต่าง ๆ นับร้อยคน ได้ระดมกำลังรุดเข้าที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชานชาลาได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีประชาชนเสียชีวิต โดยบางข่าวก็บอก 4 ศพ บางข่าวก็บอก 5 ศพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 8 คน และได้บาดเจ็บเล็กน้อยนับอีกสิบราย
ขอบคุณภาพ: สถานีรถไฟสงขลา / Vipaporn Konrotfai / รถไฟไทย / Pichet Chamneam
เรียบเรียง: หาดใหญ่โฟกัส HatyaiFocus
ศาลาตาเล่อเท่อ ที่พึ่งของชาวบ้านเมื่อของสำคัญสูญหาย
27 เมษายน 2568 | 60จากอดีตบ้านทุ่งเหม็นขี้ สู่บ้านทุ่งขมิ้น(นาหม่อม)
27 เมษายน 2568 | 69บุกป่าหาน้ำตกลับ...น้ำตกโตนหน้าผี ณ เขาพระ อ.รัตภูมิ
27 เมษายน 2568 | 132ศาลเจ้าแม่กวนอิมสวนหมาก ศาลเจ้าแห่งแรกที่ริเริ่มทำโรงทานเจในสงขลา
20 เมษายน 2568 | 215พาชม...บ้านขุนตระการตะเครียะเขต บ้านเก่าโบราณนับร้อยปี "บ้าน 108 เสา"
30 มีนาคม 2568 | 823รู้หม้ายว่า? สงขลาเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีวันประจำจังหวัด
30 มีนาคม 2568 | 615เปิดตำนานความเชื่อ พ่อปู่ภุชงค์-แม่ย่าทองคำ วัดโคกเปี้ยว สงขลา
30 มีนาคม 2568 | 474ศาลเจ้าพ่อทวดหมอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ตำบลคูขุด อ.สทิงพระ
2 มีนาคม 2568 | 795