หาดใหญ่โฟกัสจะพาไปรู้จักกับขนมหากกินยาก ซึ่งมีมาตั่งแต่สมัยบรรพบุรุษนานกว่า 100 ปีเลยก็ว่าได้ โดยขนมหม้อแกงโบราณจะมีปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนรอมฎอนของศาสนาอิสลาม เป็นขนมที่ใคร ๆ ต่างก็พากันบอกว่า "หากินยากมากกกกกกก"
นอกจากขนมจะหากินยากแล้ว คนทำขนมต้นตำหรับหรือดั่งเดิมก็หาตัวยากเช่นกัน วันนี้หาดใหญ่โฟกัสไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ "บังหมัด" นายอาหมัด หลีแอ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/258 (ชุมชนบางมวง) ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยบังหมัดสืบทอดทำขนมมาตั่งแต่รุ่นสู่รุ่น กว่า 100 ปี รุ่นบังหมัดเป็นรุ่นที่ 3 ทำมาแล้วกว่า 40 ปี ดั่งเดิมบังหมัดเล่าว่า แม่เป็นคนทำขายในหมู่บ้านที่จังหวัดพัทลุง ก่อนจะย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ อ.หาดใหญ่จนถึงทุกวันนี้ โดยขนมหม้อแกงโบราณจะทำขายปีละครั้ง ในช่วงเดือนบวช (เดือนรอมฎอน) เมื่อก่อนสมัยแม่ของบังหมัดทำขาย ขายเพียงแค่ชิ้นละ 50 สตางค์ เท่านั้น
ขนมหม้อแกงจะมีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากมากนัก อาศัยประสบการณ์เท่านั้น บังหมัดเคยเห็นแม่ทำตอนเด็กๆ จึงเริ่มเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ จากการช่วยแม่บ้าง ทำเองบ้าง พอมาแต่งงาน กับก๊ะไหม นางไหมมูนะ หนูทอง ก็ได้เริ่มเอาขนมสูตรโบราณจากแม่มาทำขาย โดยเริ่มจากการใช้แป้งข้าวเจ้า 5 กิโลกรัม แป้งข้าวเหนียว 5 กิโลกรัม คนส่วนผสมใส่น้ำตามความเหมาะสม และใช้ไข่ไก่ 10 แผง น้ำตาลทรายขาว 25 กิโลกรัม ในการทำขนม เมื่อผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันเสร็จแล้ว ก็จะไปเจียวหอมเจียวให้หอม เพื่อที่จะใส่ลงในพิมพ์แล้วนำมาตกแต่งขนมให้ออกมาสวยงาม การทำขนมบังหมัดบอกว่าจะต้องใจเย็น ๆ ใช้เวลา 20-30 นาที ในแต่ละรอบ ต้องคอยดูไฟอยู่ตลอดเวลา ถ้าไปอ่อนไปขนมก็จะไม่สุก แต่ถ้าไฟแรงจนเกินไปก็ทำให้ขนมไหม้ได้เช่นกัน เริ่มทำตั้งแต่เวลา 04.00 - 15.00 น. บังหมัดจะใช้เตาฟืนในการทำขนม เพราะจะทำให้ขนมหอมกว่าเตาอบในปัจจุบัน นี่คือข้อดีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบกิน
จุดเด่นของขนมหม้อแกงโบราณของที่นี่คือ ความหอม หวาน มัน รสชาติกลมกล่อม ในปัจจุบันคนทำขนมนี้มีน้อยคนแล้ว ถ้าในจังหวัดสงขลาก็จะมีแค่บังหมัด กับที่ อ.สิงหนครเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นขนมหายากเลยทีเดียว เป็นอาชีพที่บังหมัดจะมีรายได้มากเป็นพิเศษในช่วงเดือนบวชของศาสนาอิสลาม หากพ้นเดือนนี้ไปแล้วบังหมัดก็กลับมาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปเหมือนเดิม ถือว่าการทำขนมดังกล่าวสร้างรายได้พอสมควรให้กับครอบครัว
โดยบังหมัดจะขายขนมหม้อแกงอยู่ที่ชิ้นละ 10 บาท ขายทั้งหน้าบ้านและส่งขายตามร้านต่าง ๆ พร้อมทั้งยังส่งไปยัง นาทวี บ้านพรุ อำเภออื่น ๆ อีกด้วย หากใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 0620203908 (ทำขายทุกวัน) บังหมัดยังบอกว่า "จะกินให้อร่อยต้องกินให้ขนมหายร้อนสักนิดนึง พอขนมนิ่มจะอร่อยมาก อยากให้ทุกคนได้มาลองชิมกันครับ"
"ครูทอง" ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้สืบทอดภูมิปัญญาการปั้นหม้อยาวนานกว่า 100 ปี ของบ้านสทิงหม้อ อ.สทิงพระ
24 มีนาคม 2568 | 522“เชือกกล้วยตานี” จากของเหลือทิ้ง สู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้ชุมชนคูเต่า ภายใต้ชื่อ “กอร์ตานี”
19 มีนาคม 2568 | 622ชีวิตหลังเกษียณของอดีตฯ ผู้ว่าฯ สงขลา ผันตัวเองป็นเกษตรกรสวนทุเรียนกว่า 400 ต้น
3 มีนาคม 2568 | 22,761ตาผิน ผู้ประดิษฐิ์สิ่งของจากวัสดุธรรมชาติ สู่สินค้าโอท็อปประจำอำเภอรัตภูมิ
2 มีนาคม 2568 | 628"ธนกร"กุ้ยช่าย สูตรลับจากคุณแม่ที่ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน เลี้ยงครอบครัวกว่า 45 ปี ออเดอร์ไกลถึงสหรัฐฯ
6 กุมภาพันธ์ 2568 | 652"เกียว"เบเกอรี่จากรุ่นแม่สู่คุณลูก กว่า 30 ปี ร้านขนมปังเล็กๆที่ไม่ธรรมดาในสะเดา
8 ธันวาคม 2567 | 2,460ช่างนวล ควนเนียง ศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานบนผืนหนัง
24 พฤศจิกายน 2567 | 1,286"ป้าบ่วย" เจ้าของร้านฮับเซ่ง สภากาแฟที่ตั้งอยู่คู่เมืองเก่าสงขลาร่วม 100 ปี
25 ตุลาคม 2567 | 3,622