หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เรื่องราวหาดใหญ่

กาลครั้งหนึ่ง "ลานประหารชายทะเลสงขลา" เมื่อ 50 ปีที่แล้ว
13 มีนาคม 2565 | 8,286

พื้นที่แห่งนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนเคยได้ยินเรื่องราวขนหัวลุก  ณ จุดหนึ่งบริเวณหาดทรายสวยงามของสงขลา...ครั้งหนึ่งคือ "ลานประหาร" จากพื้นที่เดิม "หาดสมิหลา" จรดถึง "แหลมเก้าเส้ง"  หาดทรายยาวสีขาวอันบริสุทธิ์ ทิวสนโบกโบยพริ้วไหวตามแรงลม แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต ณ อำเภอเมืองสงขลา อันเป็นที่ตั้งของ "สนามติณสูลานนท์" สนามประจำจังหวัดของจังหวัด (ปัจจุบัน) แต่ก่อน..พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นป่าสนรกร้าง โดยมีลักษณะเป็นลานกว้าง และมีหาดทรายจากหาดชลทัศน์กินพื้นที่ไปทั่วบริเวณ  ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยทั่วทั้งประเทศ เกรงกลัวต่อกฏหมายมาตรา 17 ของคณะปฏิวัติ

เราต้องย้อนหลังกลับไปราวปี พ.ศ. 2515 (เมื่อ 50 ปีที่แล้ว) เกิดเหตุคดีฆ่าข่มขืนขึ้น ณ ชายหาดบริเวณสนามติณฯ (ในสมัยก่อนชายหาดกินพื้นที่มาบริเวณที่ตั้งของสนามในปัจจุบัน) ผู้ต้องหาได้กระทำการฆ่าครูชายและข่มขืนครูสาววิทยาลัยเทคนิค ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสาวของผู้ร้าย (เอากระทั่งน้าตัวเอง เลวจริง!!)

ยุคนั้น..พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีความเจริญ พูดง่ายๆคือเป็นพื้นที่เปลี่ยวและรกร้าง ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างที่เราได้เห็นในทุกวันนี้ ถนนหนทางยังเป็นทางชั่วคราว (หินลูกรังปนทราย) ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางเลียบชายทะเลไปทางเก้าเส้ง โดยคนร้ายเป็นลูกชายของคนมีฐานะและมีหน้ามีตาทางสังคม พ่อแม่เป็นเจ้าของโรงงานกระเบื้อง ในสมัยก่อนกระเบื้องมีราคาค่อนข้างแพงพอสมควร คนร้ายคนนี้จบมัธยมมาจากโรงเรียนชื่อดังละแวกนั้น จบการศึกษาแล้วก็ไม่ได้เรียนต่อ ใช้ชีวิตเสเพลก่อเรื่องก่อราวไปเรื่อย ใช้เงินของพ่อแม่ราวกับเศษกระดาษ มีเรื่องเล่าว่าลงทุนฝังมุกที่อวัยวะเพศ เพื่อเป็นที่โจษจันแก่สาว ๆ ในจังหวัด ฆาตกรผู้นี้ก่อคดีมาแล้วหลายคดี แต่พ่อแม่ก็คอยช่วยเหลือให้รอดตัวมาทุกครั้ง..แต่ขอบอกไว้ว่ามันไม่ใช่ครั้งนี้ 

โดยที่ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่คุณครูคู่รักกำลังนั่งพลอดรักกัน ณ บริเวณริมชายหาดหลังวิทยาลัยเทคนิค (มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคล) ฆาตกรได้กินเหล้าและขับรถจักรยานยนต์มาตระเวณแถวชายหาด (สมัยนั้นมีมอไซต์แสดงว่ามึงรวยพอตัว) พอเห็นครูเทคนิคทั้งสองนั่งจีบกัน ก็เลยควักมีดออกมาแล้วตรงเข้าจี้ครูผู้ชาย แต่ครูชายไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กัน แต่มือจะสู้มีดก็เป็นไปได้ยาก ครูชายถูกแทงตาย แล้วฆาตกรก็ใช้มีดจี้ครูสาวและค่อยๆข่มขืนครูสาวอย่างทารุณ (บางข่าวบอกว่ามันเรียกพวกมาข่มขื่นด้วย) พอข่มขื่นเสร็จมันก็ขู่ว่าอย่าไปฟ้องเจ้าหน้าที่ ไม่งั้นตายแน่ ซึ่งในคดีที่ผ่านๆมาพ่อแม่ของฆาตกรคอยช่วยเป่าคดีให้อยู่ตลอด (จ่ายรายการ) ส่วนมากผู้เสียหายมักยอมความ เพราะอับอายเรื่องถูกข่มขืน ทำให้เจ้าฆาตกรรายนี้ชะล่าใจ คิดว่าคงไม่เป็นไร ยังไง ๆ ก็น่าจะรอด

แต่ในครั้งนี้ผู้ตายและผู้ถูกข่มขืนเป็นข้าราชการ หลังเกิดเหตุจึงมีการประท้วงจากบรรดาลูกศิษย์และคณะอาจารย์ ทำให้ผู้ว่าและอัยการจังหวัดต้องเข้ามาดูสำนวนด้วยตัวเอง มีเรื่องเล่าว่า...ประชาชนชาวสงขลามีการพนันกันเอาไว้ว่า...คนร้ายจะถูก ประหาร หรือ ไม่ประหาร คดีดังกล่าวกลายเป็นข่าวใหญ่โตในชั่วข้ามคืน มีผู้คนต่างเฝ้าจับตามองคดีนี้อยู่เป็นจำนวนมาก

ในที่สุดข่าวช่วงเวลาประมาณสองทุ่มเศษ มีการออกมาประกาศ คำสั่ง มาตรา 17 จากจอมพลถนอม (นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะปฏิวัติ) ว่าให้มีการประหารชีวิตนักโทษคนดังกล่าวในเร็ววัน (ภายใน24ชั่วโมง) คืนนั้นทางการมีการสร้างหลักประหารขึ้นอย่างเร่งด่วน ตรงบริเวณ "สนามติณฯ"

ซึ่งแต่เดิมบริเวณนั้นเคยเป็นชายหาดและป่าสน และช่วงรุ่งเช้าก็ทำการประหารด้วยการยิงเป้า เกิดเรื่องที่น่าตกใจคือ เมื่อเจ้าหน้าที่ยิงกระสุนชุดแรกเสร็จ ปรากฏว่า ผู้ร้ายกลับไม่ตาย สร้างความแตกตื่นให้ผู้คนที่ไม่เคยพบเห็น (คิดว่าผีหลอก) ผู้ยิงเป้าจึงต้องยิงกระสุนชุดที่สองซ้ำ เป็นอันปิดฝาโลง 

หลังจากประหาร...มีประชาชนมากมาย ต่างแวะเวียนมาชมหลักประหารอยู่นานนับสัปดาห์ ก่อนทางการจะให้พระสงฆ์เข้ามาสวดรื้อถอนหลักประหารนี้ออกไปเสีย ทรายในกระสอบของหลักประหาร ต้องเอาไปลอยทะเลทั้งหมด ส่วนกระสอบเปล่าก็เผาทิ้ง เพื่อกันไม่ให้พ่อมดหมอผีไปทำคุณไสยเวทย์..... มีใครเคยได้ยินเรื่องแปลก ๆ จากที่นี่อีกไหมครับ บอกเพิ่มเติมได้เลย

 

 
 
 
 

 

 

 

 

 

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง