หางานหาดใหญ่ หาดใหญ่ ชัดทุกเรื่องเมืองหาดใหญ่ สงขลา อับเดตข่าวหาดใหญ่ Hatyaifocus สาวสวยหาดใหญ่ หนุ่มหล่อหาดใหญ่

เที่ยวหาดใหญ่

ขี่มอไซค์ไปเกาะยอ (เกาะชิค ๆ) | The Story
19 มิถุนายน 2560 | 11,758

คนเดียว - ขี่มอไซค์ - เกาะยอ - Instagram

หากพูดถึงเกาะที่มีความงดงามมากที่สุดในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา คงหนีไม่พ้น "เกาะยอ" เกาะที่มีเอกลักษณ์และเท่ที่สุด เกาะหนึ่งในอาณาจักรแดนสยาม เกาะเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์และทรงคุณค่า ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กินพื้นถึงสามจังหวัด (สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช) มีพื้นกว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร เสน่ห์ของเกาะแห่งนี้มีหลากหลาย โดยเฉพาะธรรมชาติและวิถีชีวิตพื้นบ้านอันเก่าแก่ เมื่อพูดถึงวิถีชีวิต เกาะยอ จะตอบโจทย์ความ "Real" ของคุณได้เป็นอย่างดี

ถ้าคุณเป็นพวกชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน (ตรงกับนโยบายรัฐบาล เที่ยวไทยเท่) เกาะยอ จะทำให้คุณได้สัมผัส เข้าถึง และเข้าใจวิถีชาวบ้านและท้องทะเล การตกปลา การวางกับดักจับสัตว์น้ำ และการเลี้ยงปลาในกระชัง สิ่งที่ประทับใจของเรา คงหนีไม่พ้นอาหารทะเลสด ๆ รสชาติอร่อย และมีราคาไม่แพงเลยนะ..จะบอกให้

เริ่มต้นทริปวันนี้ ณ บขส.หาดใหญ่ เมื่อเราหารถสองแถวไม่เจอ ที่พึ่งทางกาย ที่หาง่ายที่สุดคงหนีไม่พ้น "รถตุ๊กตุ๊ก" จริง ๆ แล้วไม่ได้มีความตั้งใจอยากใช้บริการเท่าไหร่นัก เนื่องจากราคาและการบริการที่เรา ๆ รู้ดีกันอยู่ แต่เอานะ...ร้อน ๆ เพลีย ๆ อยากหา Hostel นอนในหาดใหญ่สักคืน 

รถตุ๊กตุ๊กค่อย ๆ แล่นมาถึงบริเวณหน้าตลาดกิมหยง ไม่ใกล้ไม่ไกล เราจะพบกับ Hostel สวย ๆ อย่าง "THE HIVE HOSTEL" หลังจากลงจากรถตุ๊กตุ๊ก เราก็รีบไปเช็คอินให้เรียบร้อย ที่นี่เป็น Hostel ลักษณะตึกแถว สำหรับที่นอน เตียงมีที่กั้นแบ่งช่องของใครของมัน มีความเป็นส่วนตัวระดับนึง และทาง Hostel มีการตระเตรียมผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว และหมอน เอาไว้ให้ เรียกได้ว่า บริการดี สะอาด และน่านอน!!

เราเช่ามอเตอร์ไซค์จาก The Hive Hostel ซะเลย ค่าเช่าราคาวันละ 400 บาท เชี่ยะ..แพงโฮ้กกกกก แต่ก็ถูกกว่าที่อื่น เดินไปเจอร้านนึง ราคาวันละ 800 บาท รีบหันหลังเดินดิ่งตรงสู่ที่พักทันที ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่าเมืองหาดใหญ่ หาร้านที่มีบริการเช่ามอเตอร์ไซค์ได้ยากมาก ๆ ต่างกับเชียงใหม่หรือภูเก็ต เราได้แอบถามลุงคนขับตุ๊กตุ๊กว่า "ถ้าจะเหมารถตุ๊กตุ๊กไปเกาะยอ ตั้งแต่บ่ายสองถึงตอนเย็นราคาเท่าไหร่??" คำตอบที่ได้ยิน แทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะคุณลุงตอบมาว่า "วันละ 1,000" โอ้โห้วววว...พระคุณลุนช่องช่วยด้วย ทำไมแพงแบบนี้ ปล้นกันชัด ๆ แต่มองดูอีกทีหากเรามาหลาย ๆ คน เราว่ามันก็จะคุ้มอยู่นะ แต่ประเด็นตอนนี้คือเรามาคนเดียว

วันแรกในหาดใหญ่ ขอเที่ยวใกล้ ๆ ที่พักนี่แหละ เพราะยังเหนื่อยและเพลียกับการเดินทาง เราตัดสินใจไปถนนคนเดิน บริเวณใกล้ ๆ กับ Hostel นี่แหละ ออกเดินตามหาไก่ทอดหาดใหญ่อันเลื่องลือกระบือไกล (ระบือ ๆ) ได้ฟีลออริจินอล (ดั้งเดิม) บรรยากาศร้านรถเข็น นั่งกินข้างถนน แต่!!! เราหาร้านไก่ทอดหาดใหญ่ไม่เจอ (โถ่!! อี...) คงจะเป็นเพราะร้านไก่ทอดหาดใหญ่จะมีอยู่ต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ตอนนี้เราอยู่หาดใหญ่ คงไม่มีใครตั้งชื่อ "ไก่ทอดหาดใหญ่" หรอกนะ...กลับที่พักดีกว่า

เช้าวันต่อมา... ได้ฤกษ์เดินทางไปเกาะยอแล้ว ก่อนออกเดินทาง ขอแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ฮุ้งก่อนนะ เป็นร้านที่น้อง Reception ของ Hostel แนะนำมาว่า "ต้องลอง!! เพราะมันอร่อยมว๊าก" (เราก็ไม่ขัดศรัทธา) มาถึงร้านก็รีบสั่งรีบโซ้ย บอกได้คำเดียวว่า "อร่อยตามที่น้องว่าจริงๆ" เด็ดตรงที่ลูกชิ้นเอ็นเนื้อ เขาบอกว่าเป็นลูกชิ้น Homemade (ทำเอง) ลูกชิ้นอ่ะผ่านนะ แต่เราว่าน้ำซุปยังจืดไปนิด (ทำไมเราไม่ปรุง) 

หลังจากเติมพลังให้ร่างกายจนหนังท้องตึง เราก็มาออกเดินทางมุ่งสู่เกาะยอกันดีกว่า "เกาะยอ" ตั้งอยู่ห่างกับเมืองหาดใหญ่ราว 20 กิโล (จิ๊บ ๆ นะ) ขี่มอเตอร์ไซค์น่าจะไม่มีปัญหาอะไร เกาะแห่งนี้มีพื้นที่เพียง 15 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่รู้หรือไม่เกาะยอมีคำขวัญเป็นของตัวเองนะเออ (ฟังนะ ไม่ฟังก็จะบอก) คำขวัญของเกาะยอ คือ “สมเด็จเจ้าเป็นศรี ผ้าทอดีล้ำค่า นานาผลไม้หวาน ถิ่นอาหารทะเล เสน่ห์สะพานติณฯ สถาบันทักษิณลือนาม งดงามเรือนทรงไทย” (ยาวกว่าคำขวัญบางจังหวัดอีก) หากเราตีความจากคำขวัญเกาะยอ สามารถจำแนกออกได้ 6 สิ่งที่เราไม่ควรพลาด!! นั่นคือ ผ้าทอ ผลไม้ อาหารทะเล สะพาน สถาบันทักษิณ และเรือนไทย

เสน่ห์ของเกาะยอสำหรับเรา เราว่ามันอยู่ที่ Life Style ของชาวบ้าน (วิถีชีวิต) และความชิลของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ รับรองเราจะทำให้คุณหลงรัก

"วิถีการทำประมง" เป็นสิ่งที่ทำให้เราประทับใจเสียเหลือเกิน ระหว่างทางที่เราขี่มอเตอร์ไซค์ เรียบทะเลสาบมาเรื่อย ๆ ถ้าสังเกตบริเวณชายฝั่ง จะมองเห็นไซดักปลาดักกุ้ง และขนำ เรียงรายมากมายเต็มไปหมด เราจึงขึ้นไปบนพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา (สถาบันทักษิณ) เพื่อมองดูทะเลสาบรอบ ๆ เกาะยอ ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท นักศึกษา 20 บาท นักเรียน 10 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาท

เมื่อเราขึ้นไปมองดูวิวจากมุมสูง เราจะมองเห็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา บนผืนน้ำเต็มไปด้วยไซนั่ง (อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ) และโฮมสเตย์วางเรียงรายเป็นจำนวนมาก บ้านบนน้ำ คนที่นี่เรียกว่า "ขนำ" ที่ชาวบ้านเอาไว้เฝ้าไซ กันคนมาขโมยอุปกรณ์ แต่ปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนจากทำขนำมาเป็นโฮมสเตย์ (เยอะมาก)

ถ้ากลับหลังหันมาชมอีกทิศนึงของเกาะ จะเห็นสะพานติณสูลานนท์ เชื่อมเกาะยอและฝั่งอำเภอสิงหนคร

 

เมื่อเราขี่มอไซค์ลงมาจากพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ก็เริ่มขับรถวนรอบเกาะ เพื่อออกตามหา "กระชังปลา" (ถามไปเรื่อย เดี๋ยวก็เจอ) เราขับมาเรื่อย ๆ เข้าหมู่บ้านนี่ ออกหมู่บ้านโน่น บรรยากาศร่มรื่นมากเลยทีเดียว เหมาะแก่การขับขี่มอเตอร์ไซค์รับลมชมวิวเป็นที่สุด ขับไปเรื่อย ๆ จะได้กลิ่นไอทะเลและกลิ่นคาวปลา (ก็มันเป็นหมู่บ้านชาวประมงนี่หว่า)

 

ระหว่างทาง บ้านหลาย ๆ หลังบนเกาะยอ มักติดป้ายหน้าบ้าน บ่งบอกว่าเป็น "โฮมสเตย์" สามารถให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนได้ บรรยากาศกลางน้ำแบบนี้ มันชิลไม่น้อยเลยจริง ๆ นะ ก่อนมาเราได้ติดต่อโฮมสเตย์ลุงเดชา หรือ เกาะยอโฮมสเตย์ ลุงเดชาคือผู้บุกเบิกการทำโฮมสเตย์บริเวณรอบ ๆ เกาะยอ เนื่องจากสมัยก่อนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มาแค่แป๊ปเดียวแล้วก็กลับ จึงหาวิธีให้นักท่องเที่ยวอยู่ได้นานขึ้น เพื่อเป็นรายได้แก่ชุมชนเพิ่มขึ้นด้วย ในช่วงแรก ลุงต่างโดนชาวบ้านหาว่าบ้า ทำโฮมสเตย์แล้วใครจะมาอยู่ แต่ดูตอนนี้สิ แทบทั้งหมู่บ้าน เปลี่ยนจากขนำมาเป็นโฮมสเตย์กันหมด เนื่องจากเรามาคนเดียว คุณลุงแนะนำว่าควรมากับเพื่อน ๆ ดีกว่า เพราะขนำลุง มันเป็นหลังใหญ่ ต้องเหมา หลังละ 2000 บาท อยู่ได้เป็นสิบคนเลยนะ

หลังจากอกหักจากโฮมสเตย์...เราก็ออกตามหาสถานที่นั่งชิล เพื่อขอเก็บบรรยากาศเสมือนนั่งเล่นบนขนำ เลยเปิด Instragram เพื่อดูสถานที่ยอดฮิต ที่ผู้คนที่เดินทางมาเกาะยอเช็คอินกัน ผลปรากฏว่า เราค้นพบกับร้านกาแฟริมทะเล มีนามว่า Cafe' in เรามองว่ามันเป็นการงมหาทางที่คุ้มค่ามาก ร้านนี้ถ้าเราไม่สังเกตหรือไม่รู้มาก่อน เชื่อเถอะ...น้อยคนที่จะหาเจอ เพราะร้านนี้ตั้งอยู่หลังบ้าน มองจากถนนไม่รู้หรอกว่าบ้านหลังนี้ เป็นที่หลบซ่อนของร้านแสนวิเศษ   

ร้าน Cafe' in เป็นร้านกาแฟริมน้ำ (ติดน้ำ) สภาพร้านเสมือนท่าเรือ แต่น่าเสียดายที่มาตอนบ่าย แดดจัดเกินไปหน่อย เลยไปกล้าไปนั่งริมน้ำ (กลัวผิวสีแทนเหมือนพลอย เณอมาลย์) 

 

 

ชิล Cafe'in เสร็จ ก็ขอขี่รถเล่นรอบ ๆ เกาะต่อ เราขอเปรียบเกาะแห่งนี้ เป็นเกาะที่ชิคสุดในประเทศเลยได้ไหม ระหว่างที่เราขี่รถเล่นรอบเกาะนั้น เราบังเอิญเหลือบไปเห็นบ้านไทยโบราณ หลังคาที่มุงบ้านหลังนี้ บอกได้เลยว่าเกินร้อยปีแน่ ๆ (เก่าอ่ะ) ขอแวะอีกสักรอบได้ไหม (หิวหรือว่าอะไร) บ้านหลังนี้สืบประวัติมาได้ใจความว่า บ้านเก่าหลังนี้ถูกดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ...อื้ม (Story แค่นั้น...จริง ๆ หรอ) ร้านนี้ยังคงคอนเซ็ปต์ เรือนไทยทรงจั่วยกถุนสูง มุงด้วยกระเบื้องเกาะยอ (กระเบื้องเกรด A สมัยอยุธยา) ตามแบบฉบับเรือนไทยโบราณภาคใต้ นั่นคือร้าน Bistro Cafe' เกาะยอ

 

 

 

สั่งชาเขียวมานั่งกินในป่ากล้วยข้างบ้าน บอกแล้วว่าเกาะยอเป็นเกาะชิค ๆ ธรรมชาติและความโบราณ ช่างผสมกลมกลืนกันได้ดีและมีความลงตัวเป็นที่สุด

 

 

เสียงเพลงจากคาราโอเกะก้องกังวาล จากขนำสเตย์ลุงดำ เพลงพบกันใหม่ของโพลีแคท มาไกลถึงขนำเกาะยอเลยหรือนี่

เมื่อฝนมา ฉันคงต้องบอกลา....

Editor: Hatyai Focus
Copyright: High on Dream
 

  

เรื่องที่เกี่ยวข้อง